ฟันธงดวง 12 ราศี ปี 2567 โดย อ.ลักษณ์ ราชสีห์ โหรฟันธง (คลิก !!)
ดวงชะตา 12 ราศี ประจำเดือนกรกฎาคม 2567 โดย อ.แก้ว นพเก้า (คลิก !!)
นรสิงห์ปราบมาร พิชิตโรค รุ่นแรกในแผ่นดินแห่งองค์พระนารายณ์อวตาร เนื้อนวโลหะครบสูตร ปิดทองคำแท้ (มีหมายเลขกำกับ) มอบพร้อมหนังสือนรสิงห์ปราบมาร
จัดสร้างปี 2563 โดย อ.ลักษณ์ โหราธิบดี
นารายณ์อวตาร ปางที่ 4 นรสิงหาวตาร
“นรสิงห์”
นรสิงหาวตาร (NARASIMHA AVATARA) อวตารปางที่สี่ของพระนารายณ์ตอนนี้มีชื่อว่า “นรสิงหาวตาร” ซึ่งเป็นปางแรกที่พระนารายณ์อวตารลงมาในไตรยุค (Tri Yuga) ซึ่งถือว่าเป็นยุคที่ 2 ของโลกเรา อันเป็นยุคที่ความดีของมนุษย์นั้นเริ่มลดลงเหลือ 3 ใน 4 ส่วน
คำว่า “นรสิงหาวตาร” นี้มาจากคำ 3 คำมารวมกัน คือ คำว่า “นร (Nara)” ที่หมายถึง คน บวกกับคำว่า “สิงหะ (Simha)” ที่หมายถึง สิงโต และ คำว่า “อวตาร (Avatar)” ที่แปลว่า การเคลื่อนลงมายังโลกของพระนารายณ์ในรูปครึ่งคนครึ่งสิงโตนั่นเอง
เหตุการณ์ในตอนนี้เกิดขึ้นหลังจากหิรัณยากษะ (หิรันตยักษ์) ถูกพระนารายณ์ซึ่งเป็นหมูป่า สังหารไปแล้วนั้น พญายักษ์ชื่อว่า “หิรัณยกศิปุ (Hiranyakashipu)” ผู้เป็นน้องชายฝาแฝดก็ขึ้นมาเป็นใหญ่ในหมู่อสูรใต้บาดาลแทนพี่ชาย พญายักษ์ผู้นี้มีจิตใจหยาบช้ากว่าพี่ชายยิ่งนัก ได้บำเพ็ญตบะและขอพรจากพระพรหมว่า
· ขออย่าให้ตนเองถูกมนุษย์ เทวดา สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายฆ่าเอาให้ตายได้
· อย่าให้ตายด้วยอาวุธใด ๆ ในสากลโลก
· อย่าให้ตายในเวลากลางวันหรือกลางคืน
· อย่าให้ตายในบ้านหรือนอกบ้าน
ซึ่งพระพรหมธาดาก็ทรงประสิทธิ์ประสาทพรให้ตามที่ขอทุกประการ ทำให้พญาหิรัณยกศิปุมีความฮึกเหิมไม่เกรงกลัวผู้ใด แม้แต่พระผู้เป็นเจ้า สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ร้อนถึงพระวิษณุต้องอวตารลงมาเป็นนรสิงห์ เพื่อปราบหิรัณยกศิปุ
พญายักษ์หิรัณยกศิปุ ตนนี้มีโอรสองค์หนึ่งชื่อว่า “ประหลาทกุมาร” ซึ่งเป็นอสูรที่ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดี มีความจงรักภักดีต่อพระนารายณ์มหาเทพยิ่งนัก ทำให้แนวความคิดของพญาหิรัณยกศิปุนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แลพญายักษ์ก็มีความรักในโอรสยิ่งนัก เรียกได้ว่ารักดังหัวแก้วหัวแหวน ประหลาทกุมารผู้ตั้งอยู่ในศีลธรรมก็พยายามโน้มน้าวจิตใจของบิดาให้เลิกประพฤติชั่ว หันมาทำความดีมีความจงรักภักดีต่อผู้เป็นเจ้า แต่บิดาก็หาได้ฟังไม่ เที่ยวเบียดเบียนบีฑาบรรดาทวยเทพทั้งหลายให้เดือดร้อนไปทั่วทุกหัวระแหง
พระอินทร์จึงชักชวนบรรดาทวยเทพทั้งหลาย ไปขอร้องให้พระนารายณ์มหาเทพ มาช่วยปราบพญาอสูรผู้ชั่วร้ายตนนี้ เพราะไม่มีใครจะปราบมันได้ พระนารายณ์มหาเทพก็ทรงรับปากว่าจะช่วย แต่ทรงขอเวลาคิดหาหนทางปราบพญาอสูรก่อน ฝ่ายประหลาทกุมาร ผู้เป็นโอรสก็เพียรพยายามขอร้องให้บิดาเลิกเบียดเบียนผู้อื่น ฝ่ายพญาอสูรผู้บิดาก็หาเชื่อฟังไม่ จึงใช้พวกพราหมณ์อสูรทั้งหลายไปอบรมพระโอรส ให้มาเข้าข้างตนพระโอรสก็ไม่ยอม แม้จะพยายามอย่างใด พระโอรสก็ไม่ยอม
จากความรักมาก ก็กลายเป็นความชังมาก จึงสั่งให้จัดการฆ่าโอรสของตนเสีย แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ๆ ก็ไม่สามารถฆ่าโอรสของตนได้ พญาหิรัณยกศิปุจึงถามโอรสตรง ๆ ว่าพระนารายณ์มหาเทพนั้นมีจริงหรือไม่ ถ้ามีจริงและแน่จริงก็ปรากฏตัวออกมาเลย และทันใดในระหว่างนั้น เสาศิลากลางห้องท้องพระโรงก็แตกออกมา เป็นนรสิงห์
นรสิงห์เป็นครึ่งคนครึ่งสิงห์ ได้ปรากฏตัวขึ้นในเวลาสนธยาโดยแตกออกมาจากเสาศิลากลางห้องท้องพระโรงของ หิรัณยกศิปุ ปราดเข้ามาจับตัวหิรัณยกศิปุ ลากออกไปอยู่บริเวณธรณีประตู (คืออยู่ในปราสาทครึ่งตัว อยู่นอกปราสาทครึ่งตัว) และนรสิงห์ผู้นั้นก็ถามพญาอสูรว่า
ตนเป็นมนุษย์ เทวดา หรือสัตว์ พญายักษ์ตอบว่า ไม่ใช่ทั้งมนุษย์ เทวดา และสัตว์
นรสิงห์ก็ถามต่อไปว่า เวลานี้ร่างของหิรัณยกศิปุอยู่นอกเรือนหรือในเรือน พญายักษ์ตอบว่า ไม่ใช่ทั้งในเรือนและนอกเรือน
นรสิงห์ถามต่อไปอีกว่า เวลานี้เป็นกลางวันหรือกลางคืน หิรัณยกศิปุตอบว่า มิใช่ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่เป็นเวลาโพล้เพล้
นรสิงห์จึงชูมือกางกรงเล็บออกมา ถามพญายักษ์ว่า อันนี้คืออาวุธหรือไม่ พญายักษ์ก็ตอบว่าไม่
นรสิงห์จึงประกาศว่า พรทั้งหลายของพระพรหมธาดาเป็นอันเสื่อมแล้ว และตัวพญาอสูรก็ตกอยู่ในภาวะอันนอกเหนือจากพรหมประกาศิตทุกประการแล้ว
กล่าวจบ นรสิงห์ก็จัดการสังหารพญาอสูรด้วยการใช้กรงเล็บฉีกกระชากอกพญาอสูรจนถึงท้องจนขาดใจตาย
วัตถุประสงค์
ในปี 2563 เป็นที่ประเทศไทยเผชิญกับโรคระบาด คือ โรคโควิด-19 เป็นโรคระบาดที่รุนแรงและระบาดไปทั่วโลก ประกอบกับ ในช่วงปลายปี 2562 ถึงต้นปี 2563 อ.ลักษณ์ ราชสีห์ ได้เจ็บป่วยและเกิดทุกขเวทนาจากอาการเจ็บป่วยนั้น ด้วยศรัทธาที่มีต่อองค์เทพเทวา จึงได้จัดสร้าง องค์นรสิงห์ปราบมาร พิชิตโรค เพื่อให้เกิดความเป็นมงคล ให้ผ่านพ้นจากทุกข์โศกโรคภัย ขจัดความป่วยเจ็บ ความอิจฉาริษยา ขจัดคุณไสย อวิชชา มนตราทั้งหลาย
องค์นรสิงห์คือ พระนารายณ์อวตารปางที่ 4 เพื่อปราบยุคเข็ญ มาร โรคร้าย สรรพภัยที่ร้ายกาจ ต่อสามโลก ตามตำนาน
ชนวนมวลสาร
อ.ลักษณ์ โหราธิบดี ได้นำชนวนมวลสารที่เก็บเอาไว้ 15 ปี เป็นชนวนมวลสารจากเนื้อนวโลหะก้นเบ้า ก้านชนวนหล่อพระ ที่ อ.ลักษณ์ โหราธิบดี สะสมไว้ร่วม 15 ปี เนื้อโลหะแก่เงินแก่ทองคำ (ตรวจสอบได้) เป็นชนวนเหลือจากการหลอมรวมชนวนสร้างพระกริ่งสมเด็จธงชัย
พิธีพุทธาเทวามังคลาภิเษก 4 วาระ ร่วมกับพระกริ่ง / พระชัยวัฒน์สมเด็จธงชัย และพิธีนรสิงห์เทวาภิเษก ณ บ้านโหราธิบดี
มีพิธีการเททองนำฤกษ์ อธิษฐานโดย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) และมีพุทธาเทวามังคลาภิเษก 4 วาระ
· วาระที่ 1 วันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2563 ณ พระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม
· วาระที่ 2 วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ณ พระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม
· วาระที่ 3 วันที่ 2 มีนาคม 2563 ณ พระอุโบสถ วัดไตรมิตรวิทยาราม ในวาระ “ดาวเสาร์ (๗)” โคจรย้ายราศี
· วาระที่ 4 พิธีมหาเทวาประสิทธิ์ นรสิงห์ภิเษก ณ บ้านโหราธิบดี ในวันเสาร์ 5 (วันที่ 28 มีนาคม 2563 )
· วาระพิเศษ นำองค์นรสิงห์ปราบมาร พิชิตโรค ประกอบพิธีคุรุเทวะบูชา ในวัน “ดาวพฤหัสบดี (๕)” โคจรย้ายราศี ในวันที่ 17 มีนาคม 2563 ณ บ้านโหราธิบดี
พระคาถาบูชา ขอพร องค์นรสิงห์ปราบมาร สลายโรคร้ายภัยเวร
อิมินา สักกาเรนะ นะระสิงหาวะตารัง
มะหาเทวัง สิระสา นะมามิ,
นะมะการานุภาเวนะ หันตะวา สัพเพ
อุปัททะเว อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
ทีฆะมัทธานัง นะระสิงหาวะตาระมหาเทวา
สัพเพ อัมเห สะปะริวาเร อนุรักขันตุ สัพพะทา ฯ
นรสิงห์ปราบมาร พิชิตโรค (หมายเลขโค้ด 7511)